วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เคยบางไหมที่เรามักจะมองข้ามสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเราเสมอ.......

เคยบางไหมที่เรามักจะมองข้ามสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเราเสมอ.......
การที่เรา..อยู่ใกล้กับอะไรนั้นมากเกินไป..

เรามักมองเห็น สิ่งนั้นไม่ชัดเจน...

เหมือนเสียงของหัวใจ...ที่ไหวเต้นอยู่ในร่างกายเรา

ยังเป็นเรื่องยากที่จะได้ยิน.....

คนสองคนที่อยู่ด้วยกันตลอด....

อาจจะทำให้เรา มองไม่เห็นตัวตน..ที่แท้จิงของกันและกัน

และก็มองไม่เห็น..หัวใจของตัวเองได้ชัดเจน..

บางครั้ง เมื่อเรารักใครสักคน...

เราอาจไม่รู้เลยว่า...เรารักเขาแค่ไหนหรือ...

เขามีความหมาย กับเรามากแค่ไหน..

จนเมื่อถึงเวลา ที่ต้องห่างไกลกัน...

ความคิดถึง...ก็จะเกิดขึ้น

ให้เราสามารถค้นหาคำตอบ เหล่านั้นได้

รักแค่ไหน...มีความหมายแค่ไหน...

ความคิดถึงกันและกัน มันจะตอบทุกอย่างเอง

วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เคยคิดบางไหมว่า..

เคยคิดบางไหมว่า.. ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตได้คุ้มค่า กับเวลาที่ผ่านมาหรือเวลาที่เสียไป บ้างหรือเปล่า


ถ้าไม่เคย... ก็ถึงเวลาแล้ว

ที่เราต้องถามตัวเองว่า เราอยู่เพื่ออะไร...

บางคนบอกได้ว่า ก็อยู่เพื่อคนที่เรารัก หรือบางคนก็คิดเพียงแค่ อยู่ไปวันๆ ให้เวลามันเดินมาไปเฉยๆ

บางคนก็มัวแต่จมอยู่กับอดีต ให้อดีตมาเป็นตัวกำหนดอนาคต

อดีตถือได้ว่าเป็นตัวแปรที่สำคัญนะ !!!!สำหรับการดำรงชีวิตของเรา

บางคนมัวแต่กลัว และก็จมอยู่กับสิ่งที่มักเคยเกิดขึ้น เหมือนกับการเป็นแผล

ที่มันยิ่งเปิดกว้างมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นแผลลึก จนไม่สามารถเยียวยารักษาให้หายได้

แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เพราะบาดแผลมันเปิดกว้างจนไม่สามารถหายได้ หรอกนะ

มันเป็นเพราะตัวของเราเองต่างหาก ว่าจะนำชีวิตทั้งชีวิตไปผูกติดอยู่กับอดีตมากน้อยเพียงใด

เมื่อเจอปัญหา คุณสามารถที่จะยิ้มรับมันได้หรือเปล่า

หรือเมื่อเจออุปสรรคหรือสิ่งร้ายๆที่มันผ่านมาในชีวิตของคุณ

คุณสามารถผ่าฟันมันไปได้ ด้วยความเข็มแข็ง ความอดทน จนไปถึงเส้นชัยได้หรือไม่

กำลังใจมีให้กันได้ แต่เมื่อเวลาที่อ่อนแอที่สุด สิ่งสำคัญก็คือตัวของเราเอง

ถ้าเรายังไม่คิดรักตัวเอง จะหวังอะไรมากมายจากผู้คนอื่นๆที่อยู่เพียงแค่รายรอบ เรา

คิดให้เหมือนกับว่าอุปสรรคและปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่สายลมที่มันพัดผ่านเข้ามาในชีวิต

ที่เราทุกคนต้องพบและต้องเจอกับมัน...

บางครั้งการมองโลกในแง่ดี ก็อาจช่วยทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้บ้าง แม้ว่าในความเป็นจริงมันจะไม่ได้สวยงามซะขนาดนั้นก็ตาม

คนบางคนที่เค้าเจอปัญหามากกว่าเรา เคยใช้ชีวิตผิดๆ เค้าก็ยังสามารถผ่านพ้นกับปัญหามาได้

ด้วยความเข้าใจใหม่ๆที่ว่า “หัดรักตัวเองให้เป็นก่อนที่จะคิดไปรักคนอื่น”

ความรักถือว่าเป็นสิ่งที่สวยงาม เมื่อมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา

เมื่อคิดจะรักแล้วก็ต้องคิดเผื่อใจไว้บ้าง ไม่ใช่ทุ่มไปให้หมด ความรักไม่ใช่การคาดหวัง

หากเรานำความคาดหวังมาใช้กับความรัก สิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่เมื่อความรักจบลง

ก็คือจิตใจที่บอบช้ำ ไร้จุดหมาย จนไม่สามารถทนรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นได้

แต่หากเราให้เวลา ศึกษา ใช้ความเข้าใจ เมื่อนั่นเราอาจพบความสุขที่แท้จริง

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คุณเห็นฉันเป็น “คนรัก” หรือว่าเป็นแค่. . .สิ่งของ

คุณเห็นฉันเป็น “คนรัก” หรือว่าเป็นแค่. . .สิ่งของ

การที่เรา . . . จะคบหา หรือรู้จักใครสักคน

ไม่ว่า . . . จะในฐานะอะไรก็ตาม

สิ่งหนึ่ง ที่ควรท่องควรจำไว้อยู่เสมอ

ก็คือ . . . “คน” เป็นสิ่งมีชีวิต

ไม่ใช่สิ่งของหรือหุ่นยนต์ที่เราอยากให้เป็น



หากว่าคุณ "รักใครสักคน" . . .

อย่า! ตั้งใจกับคน 1 คนมากเกินไป

เพราะ . . . ไม่มีใครอยากเป็นต้นเหตุของความล้มเหลว

อย่า! คาดหวังกับ คน 1 คนมากเกินไป

เพราะ . . . ไม่มีใครสามารถเป็นทุกอย่าง ที่ทุกคนอยากให้เป็น



อย่า! ให้เวลากับคน 1คนมากเกินไป

เพราะ . . . ไม่ว่าใคร ก็อยากมีช่วงเวลาของความเป็นส่วนตัว . . . คนเดียว

อย่า! พยายามเปลี่ยนแปลงคน 1 คนมากเกินไป

เพราะ . . . นั่นจะทำให้เขา ไม่หลงเหลือความเป็นตัวของตัวเอง



อย่า! ควบคุมชีวิตคน 1 คนมากเกินไป

เพราะ . . . มนุษย์มักจะหาวิธีการแทรกตัวเพื่อออกมาจากกฎที่ถูกกำหนด

อย่า! บีบบังคับคน 1คนมากไปกว่านี้

เพราะถ้าคนๆ นั้นหลุดจากภาวะบีบบังคับมาได้

คุณจะกลายเป็นคนที่ถูกหันหลังให้ในทันที

เธอ . . . ลองมองดูฉันดีๆ

ฉันมีลมหายใจ . . . ไม่ใช่ภาพวาด ที่จะสวยงามอยู่ตลอดเวลา

และฉันเองก็ เป็น “คน” เป็น สิ่งมีชีวิตที่มี 2 ด้านเช่นกัน



อยากให้คุณเห็นฉัน เป็นคนรัก . . .

ที่คุณพร้อมจะ “รัก” ในตัวฉันมากกว่า

ที่จะต้องการให้ฉันเปลี่ยนแปลง

หากคุณ อยากรู้จักใครสักคน ต้องหัดเรียนรู้เขา

ไม่ใช่จะไปเปลี่ยนแปลงเขา . . .

อยากให้เขาเหมือนที่เราอยากให้เป็น

. . . เว้นแต่เขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง



จงทำให้เขาอยากเปลี่ยนแปลง . . .

ไม่ใช่อยากให้เขาเปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเอง

วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คุณเรียกใครว่าเพื่อน

คุณเรียกใครว่าเพื่อน



ชีวิตเราๆ ต้องเจอะเจอผู้คนมากมาย

ทั้งที่ด้วยความจำใจ จำยอม จำเป็น บังเอิญ และด้วยความพอใจ

แต่ถึงยังไง เราก็เลือกที่จะเสวนาหรือไม่เสวนากับใครก็ได้ มันเป็นสิทธิส่วนบุคคล

ถ้าอย่างนั้นลองวาดภาพตาม..

คุณเป็นเด็กนักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามา ณ โรงเรียนแห่งนี้

คุณไม่รู้จักใคร คุณไม่รู้จักอะไรเลย

แต่ด้วยระบบของโรงเรียน ทำให้คุณเข้าไปเรียนอยู่ในห้องเรียนห้องหนึ่ง

มีนักเรียนในห้องอยู่เกือบครึ่งร้อยชีวิต และแล้ว

อาจารย์ที่ปรึกษาก็แนะนำคุณให้กับนักเรียนในห้องนั้น

และบอกว่า "ดูแลเพื่อนด้วย"

มันอาจไม่ใช่ประโยคที่แปลกอะไร แต่..ใครเป็นเพื่อนของคุณ?

และคุณเป็นเพื่อนของใคร?

มันจะไม่แปลกใช่ไหม ถ้าคุณอาจจะถูกทอดทิ้งให้ฝึกพูดบทสนทนาภาษาอังกฤษ

เพียงลำพังในคาบวิชาภาษาอังกฤษ ขณะที่นักเรียนคนอื่นๆ ในห้องจับกันเป็นคู่ๆ

ก็ยังไม่มีใครบอกว่าเป็นเพื่อนคุณสักหน่อย

แล้วมันเป็นหน้าที่ของใครล่ะ ที่จะต้องมาดูแลคุณ

แต่คุณก็ไม่ละความพยายามหรอก ในเมื่อคุณเป็นนักเรียนใหม่

คุณก็เลยเดินเข้าไปหาคู่สนทนาเองเลย

คุณแนะนำชื่อคุณ บอกว่าย้ายมาจากโรงเรียนอะไร ทำไมถึงย้ายมาในช่วงนี้

เล่าประวัติส่วนตัวคร่าวๆที่คุณคิดว่าคนที่จะเป็นเพื่อนคุณควรจะรู้

คนๆนั้นก็บอกชื่อของเขากับคุณและยิ้มให้

ชวนคุยเป็นมารยาท และอาจเดินจากคุณไป

ถ้าคุณคิดว่าคุณได้เพื่อนหนึ่งคน

*เพื่อน* คำนั้นของคุณแปลว่า *คนรู้จัก*

บางทีคำว่า *คนรู้จัก* เนี่ย ก็แปลได้หลายความหมายเหมือนกัน

..อาจแปลว่าเขาและคุณรู้จักกัน หรือเขารู้จักคุณ หรือไม่ก็ คุณรู้จักเขาอยู่ฝ่ายเดียว

มันเป็นสิ่งที่ธรรมดาหรือแปลกประหลาดก็ไม่อาจบอกได้

ทุกวันนี้แค่เพียงคุณแนะนำตัวเองต่อกันและกัน

คุณก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้ภายในเวลาไม่เกิน 30 วินาที!

...โดยทั้งสองฝ่ายต่างก็เออออห่อหมกว่า

โอเค เรารู้ชื่อของกันและกัน และเราก็ยิ้มให้กัน ดังนั้นเราเป็นเพื่อนกัน

..สมการการถ่ายทอดของคนรุ่นใหม่ คำว่า *เพื่อน* คำนี้

คงน่าสมเพชมากกว่าคำว่า *คนรู้จัก* ซะอีก

..อย่างดีคุณก็แค่จับคู่ของชื่อกับหน้าเจ้าของได้ถูก

..อย่างแย่ คุณก็จำไม่ได้เลยว่าเคยพบเจอคนๆนั้นมาก่อน

ถ้าเพียงแค่ลองลงท้ายคำแนะนำตัวว่า..

"ให้เราเป็นเพื่อนด้วยคนนึงนะ"

คุณคิดว่าไง? ..เคยมีคนพูดประโยคนี้กับคุณไหม? ...ประโยคที่ยกย่องคุณ

ขอให้ตัวเองได้เป็นส่วนนึงในชีวิตของคุณ

ได้ทำอะไรร่วมกับคุณ ได้ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับคุณ

ถ้าไม่มีก็คงไม่แปลก (ตามสมการการถ่ายทอดของคนรุ่นใหม่)

แต่ถ้ามี หรือกำลังจะมีล่ะ?

คุณคิดว่าประโยคคำพูดสั้นๆ ธรรมดาๆ ที่เด็กอนุบาลพูดกัน จะทำให้คุณรู้สึกยังไง?

มันไม่ใช่คำพูดที่ว่า -เป็นเพื่อนเราหน่อยนะ-

..คำพูดที่เอาตัวเองเป็นหลักแล้วก็ถูลู่ถูกังเอาคนอื่นมายินยอมด้วย

สองประโยคนี้คำตอบอาจไม่ต่างกัน

..คงไม่มีคนตอบว่า ไม่ได้หรอก

เราไม่อยากเป็นเพื่อนเธอ อะไรประมาณนั้นตามมารยาท

แต่ความรู้สึกจากคำพูดมันต่างกันจริงไหม

ทุกวันนี้คุณอาจบอกว่า คุณได้เพื่อนมามากพอแล้ว

และเพื่อนคุณก็เป็นเพื่อนสนิท เป็นเพื่อนที่ดี เป็นเพื่อนที่จริงใจ

สารพัดคุณสมบัติที่ทำให้คุณทำทุกอย่างเพื่อเพื่อน(หลาย)คนนี้ได้..

แต่ยังมีคนที่ไม่มีเพื่อนสนิทแบบคุณ

คนที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมและพร้อมที่จะเป็นเพื่อนแท้กับคนที่เขาถูกชะตาด้วย

เพียงแค่เขายังไม่เจอกับคนที่เขาถูกชะตา

ซึ่งคนๆนั้นอาจเป็นคุณ ถ้าเพียงคุณเปิดใจรับเพื่อนอีก

..อย่างน้อยคุณก็ได้เพื่อนอีกคน และเขาก็ได้เพื่อนอีกคน

..และอย่างมากที่สุด คุณก็ได้เพื่อนแท้มาอีกคน

"ดูแลเพื่อนด้วย"

คงเป็นอีกประโยคหนึ่ง ที่จะสามารถเรียกความซึ้งใจออกมาได้

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คุณรักคนคนหนึ่งเพราะอะไร???

คุณรักคนคนหนึ่งเพราะอะไร???




ถ้าใครสามารถตอบคำถามได้ว่า...

"รักคนคนหนึ่งเพราะอะไร"

...นั่นเป็นรักจากสมอง สมองมักมีเหตุผล

มีคำตอบในการที่ต้องรัก

และอาจไม่ใช่รักแท้...

เพราะรักแท้ เป็นรักที่ไม่มีคำตอบ

...เป็นความรัก ที่มาจากความรู้สึก

ถ้ารักจากสมอง ชีวิตรักเหมือนอยู่ในโลกความจริง

มักไม่อ่อนหวาน ทำอะไรก็มีแผนการ

...มีเหตุผล มีคำอธิบายร้อยแปด

ต่างจากรักที่มาจากความรู้สึก

...ชีวิตเหมือนอยู่ในความฝัน ...อ่อนหวาน อบอุ่น

ใช้หัวใจในการตัดสิน กลายเป็นคนไม่มีสมอง...





ถ้าใครบอกว่ารักคุณเพราะอะไร...

พึงจำไว้ว่ารักแท้จะไม่มีเหตุผล จะไม่มีคำว่าอะไร มาทำให้รัก

เพราะถ้าบอกว่ารัก เพราะคุณสวย

...เมื่อความสวยหมด อาจเลิกรักได้

หรือถ้ารักเพราะคุณเป็นคนดี

วันหนึ่งก็อ้างได้ว่า ตอนนั้นเห็นคุณเป็นคนดีได้อย่างไร...

หรือถ้ารักเพราะคุณเป็นคุณ

...ก็คงเบื่อที่จะหาคำอื่นมาพูด คำนี้ใช้ง่ายที่สุด...

จงฟังคนที่บอกว่า รักคุณ และไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรัก

นั่นเเสดงว่าใช้หัวใจรัก ไม่ว่าวันข้างหน้า คุณจะเป็นอย่างไร

หัวใจก็จะยังไม่มีเหตุผลในการรักอยู่ดี

จะเลือกคนที่ใช้หัวใจรัก หรือคนที่ใช้สมองรัก...ขึ้นอยู่กับคุณ

วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คุณจะต้องเข้มแข็ง

คุณจะต้องเข้มแข็ง


การได้มอบความรักทั้งหมดให้ใครสักคน

ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเขาจะรักเราตอบ

อย่าหวังที่จะได้รักตอบ..

แต่จงรอให้มันงอกงามขึ้นในหัวใจเขา

แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น

ก็ให้พอใจว่า....

อย่างน้อยมันก็ได้งอกงามขึ้นในใจเราเอง



คุณอาจจะเคว้งคว้าง เจ็บปวด และเปล่าดาย

คุณกำลังต้องการใครสักคน อยู่เคียงข้างคุณทุกเวลา

นั่นเพราะคุณไม่อยากอยู่คนเดียว

เพราะเวลาที่คุณอยู่กับตัวเองเมื่อไหร่

คุณจะพบภาพแห่งความทรงจำเก่า ๆ

ของคุณและเค้าที่เคยมีต่อกัน

มันย้อนเข้ามาทักทายทุกครั้งในความนึกคิด

เหมือนหนังม้วนเก่า...ไม่คุณไม่อยากดู...แต่ต้องทนดู

เพราะมันจะฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

...............

บางทีคุณอยากจะหาหนังใหม่...มาอัดซ้ำ

แต่....คุณก็ทำไม่ได้

บางที....คุณอยากปิดมัน

แต่....คุณก็ทำไม่ได้

เพราะหนังเรื่องนี้ดูด้วยหัวใจ...ไม่ใช่ดวงตา

ยิ่งวนเวียนฉายหลายรอบเท่าไหร่

คุณยิ่งเจ็บช้ำมากเท่านั้น....

คุณต้องอยู่คนเดียวให้ได้

ในเมื่อครั้งก่อนคุณยังไม่เจอเค้า

คุณก็เคยอยู่มาแล้ว

จะอยู่คนเดียวอีกสักครั้งก็ไม่เห็นเป็นไร

คุณยังมีพ่อ มีแม่ พี่น้อง และเพื่อนที่ดี ๆ อีกหลายคน

ที่คุณรักและเขาก็รักคุณ

เวลาที่คุณรู้สึกเหงา...จงคิดถึงพวกเขา...

เพราะนั่นคือยาบรรเทาความเจ็บปวดคุณ

คุณต้องอยู่คนเดียวให้ได้

เพราะชีวิตคุณ..เป็นของคุณ

อย่าให้ใครบางคนในใจ

ที่เคยทำร้ายคุณ...มาทำลายความเป็นคุณ

จงยิ้มสู้ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันยาก

แต่คุณก็ต้องทำ..

ยิ่งคุณเข้มแข็งเร็วเท่าไหร่

แผลที่อยู่ในอกซ้าย...ก็หายเร็วเท่านั้น!

วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คุณเคยไหม...

คุณเคยไหม...เวลาที่คุณไม่มีใครความรู้สึกเหงาจะเข้ามาแทนที่...


แต่พอมีใครสักคนเข้ามาดูแลใส่ใจเรา...เราจะรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก...
เคยไหม...เวลาที่เราเหงาใจ...เศร้าใจ...

รู้สึกไม่สบายใจ...คนที่เรารักเขาไม่เคยใส่ใจ

แต่กับอีกคนหนึ่งที่เราไม่เคยแคร์...เขากลับคอยดูแลใส่ใจเราอย่างดี
จนมาวันหนึ่งที่เราตัดสินใจ...อยากจะลาจากคนที่เรารัก...ตัดสินใจออกห่างจากเขา

แต่เขากลับทำดีกับเราอย่างน่าใจหาย...เหมือนกับรู้ว่าเรากำลังจะจากไป

พูดดีๆ..เอาใจใส่เรา...ทำไมอ่ะ

แต่เชื่อไหมว่าฉันกลับอภัยให้เขา...ยกโทษให้ทุกอย่างแล้วเราก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

ฉันต้องทิ้งคนที่เขาดีกับฉัน แต่..ฉันไม่ได้รักไป

จนมาวันนี้...คนที่ฉันรักก็กลับมาทำตัวเหมือนเดิม...แล้วเขาคนเดิมก็เข้ามา

คอยปลอบ...ให้กำลังใจทุกอย่าง..

แล้วคนที่ฉันรักก็ทำเหมือนเดิม...ดูแล..หวง..ห่วง..

ย้ำเสมอว่ารัก...เพื่ออะไร เขาบอกฉันว่าไม่อยากเสียฉันไป...

อยากให้เรารักกันนานๆ...อยากให้เราเป็นเหมือนเดิม...เขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง..

แล้ว...ฉันควรเชื่อเขาไหม...ฉันควรทำยังไง..ใครช่วยบอกฉันที...

วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คุณค่าของคำว่าเพื่อน

คุณค่าของคำว่าเพื่อน
คุณค่าของคำว่าเพื่อน คือ สิ่งที่ช่วยให้คุณมองเห็นค่าของมิตรภาพ

หากมีเพื่อนแท้แม้เพียงสักหนึ่งคน เท่ากับว่าคุณได้เติมชีวิตให้เต็มเปี่ยม

ทำไมชีวิตที่มีเพื่อนช่างเป็นชีวิตที่แสนดี

คุณอาจถูกทิ้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายซาฮารา และลมอาจพัดเอาฝุ่นทรายเข้าตา

แต่คุณยังคงจำลายมือของเพื่อนที่คุณรักที่สุดได้

คุณมีใครสักคนที่บ่นให้ฟังได้เสมอ

คุณใส่เสื้อผ้าที่ดูแย่ที่สุดเมื่ออยู่กับเพื่อนได้

เมื่อคุณเล่าความลับให้เพื่อนฟัง เพื่อนจะเก็บไว้เป็นความลับ

เพื่อนจะไม่ถือสาหาความ แม้ว่าคุณจะโทรไปปลุกแต่เช้า

เมื่อเพื่อนถามคุณว่า สบายดีหรือเปล่า?

คุณไม่จำเป็นต้องตอบว่า “ สบายดี “

คุณสามารถตั้งคำถามโง่ ๆ กับเพื่อนได้ โดยที่เพื่อนไม่หัวเราะเยาะคุณ

เพื่อนอยู่ข้างคุณเสมอไม่ว่ากฎหมายจะว่าอย่างไร

เพื่อนจะนินทาคนอื่นในแบบที่คุณนินทาเสมอ

คุณสามารถยกเลิกอาหารมื้อค่ำได้ โดยที่ไม่ถูกตัดพ้อต่อว่าจากเพื่อน

เสื้อผ้าของเพื่อน ก็เหมือนเสื้อผ้าของคุณยืมใช้กันได้เสมอ

ถ้าไม่มีเพื่อน สมุดจดที่อยู่ก็ว่างเปล่านะสิ

เพื่อนจะไม่บ่น ถ้าคุณยืนกินอาหารในครัว แทนที่จะนั่งบนเก้าอี้ให้เรียบร้อย

มิตรภาพแตกหักได้ยากกว่าชีวิตคู่

เพื่อนยอมรับคุณได้เสมอ ไม่ว่าคุณจะหนักเพิ่มขึ้นเท่าใด

เพื่อนจะยังคงรักคุณเหมือนเดิม

คุณไม่จำเป็นต้องนำอะไรติดไม้ติดมือไปด้วย เมื่อโผล่หน้าไปเยี่ยมเพื่อน

เพื่อนสามารถกลับมาคืนดีได้หลังจากทะเลาะกัน

เพื่อนจะพูดความจริง เกี่ยวกับสีผมที่คุณเพิ่งไปทำ

เพื่อนจะคอยเลี้ยงลูกให้ยามที่คุณยุ่ง

เพื่อนจะให้คุณยืมเงินได้ง่ายกว่าไปกู้ธนาคาร

คุณหยิบของในตู้เย็นของเพื่อนมากินได้โดยไม่ต้องขออนุญาตก่อน

คุณสามารถโทรชวนเพื่อนออกมาดูหนังในคืนวันเสาร์ได้โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้า

คุณสามารถนั่งเงียบๆ ไปตลอดทางโดยไม่ต้องหาเรื่องมาคุยกัน

เพื่อนคือใครสักคนที่คุณสามารถหลบออกจากที่ทำงาน และไปนั่งกินกาแฟด้วยกันได้

เพื่อนจะไม่ต่อว่าถ้าคุณเลิกนัดเพราะเจอคนถูกใจ

เพื่อนจะไม่ทอดทิ้งคุณแม้ขณะติดคุก

แม้ว่าเพื่อนจะไม่พบกันนานนับสิบปี

แต่ความรู้สึกของคุณกับเพื่อนก็ยังคงเหมือนเดิม

วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แค่น้ำตา . . จะช่วยเยียวยาอะไรได้

แค่น้ำตา . . จะช่วยเยียวยาอะไรได้

อย่าหลอกตัวเองต่อไป ว่า. .

น้ำตาจะล้างดวงตาของเธอ ให้มองเห็นชัดเจนขึ้น

เพราะในดวงตาที่พร่ามัว ไปด้วยน้ำตาอย่างนั้น

เธอจะมองเห็นอะไรได้..

นอกจากความทรงจำหม่นมัว

และความฝันอันมืดมิด..



..และอย่ากล่าวโทษว่า . . ตัวเองไม่ดี

ในความรัก ไม่มีใคร ดี หรือ ไม่ดี

มีแค่ "รัก" หรือ "ไม่รัก"

ต่อให้เธอทำดีแค่ไหน

ถ้าลองได้หมดรักแล้ว .. ก็ไม่มีทางจะดีไปได้..

จะยกมือเช็ดมันบ้าง ก็ได้นะ

น้ำตาน่ะ .. ยิ่งไหล .. แผลยิ่งลึก

ฉันคนเก่า . . . จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

ฉันคนเก่า . . . จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

ฉันเคย . . . ซบหน้าลงกับหมอนใบน้อย
แล้วก็ปล่อยน้ำตา ให้รินไหล . . .
เคยใช้เวลาเนิ่นนาน . . . กับการเสียใจ
ก่อนจะหยุดเพื่อถามใจ ว่า . . . เคยได้อะไรคืนมา

ตั้งแต่นั้น . . . ฉันก็ไม่เคยร้องไห้
และไม่เคยอ่อนแอ ให้ใครที่เป็นปัญหา
ฉันรู้ว่า . . . ทุกอย่างแก้ไขได้ โดยไม่ต้องใช้น้ำตา
กับชีวิตวันข้างหน้า . . . ยังมีสิ่งดีๆ ให้ค้นหาอีกมากมาย

วันนี้ . . . ฉันจึงเข้มแข็ง
หัวใจที่เคยอ่อนแรง กลับแข็งแก่งขึ้นมาใหม่
แม้สองมือจะบันทึก เรื่องราวอย่างเดียวดาย
แต่สองเท้า ก้าวไปด้วยหัวใจทรนง . . .

คงจะถึงเวลา แล้วซินะ
ที่จะเช็ดน้ำตา ให้แห้งหาย
ความเจ็บปวด . . . ที่มีมันมากมาย
จะเป็นเพียงฝันร้ายที่ผ่านไป . . .

กลับเป็นฉันคนเก่า ในพรุ่งนี้ . . .
พร้อมที่จะยืนได้อย่างดี ไม่หวั่นไหว
หากน้ำตา . . . จะกลับมารดหัวใจ
แต่นั่นต้องไม่ใช่เพราะ . . . ใครคนเดิม .

คิดถึง เธอคนที่เคยใช้เวลาอยู่ด้วยกัน

คิดถึง เธอคนที่เคยใช้เวลาอยู่ด้วยกัน


คนที่เคยมอบสิ่งดีๆ ให้แก่กันและกัน

คนที่เคยทำทุกๆ อย่างเพื่อฉันได้

คนที่ทำให้ฉันไม่เคยรู้สึกว่า ตัวเองเหงา

คนที่ฉันอยู่ใกล้ แล้วฉันก็สุขใจ



หลายคนยังคงถามฉันว่า ยังจะไป คิดถึงเขาอีกทำไม

ในเมื่อ เขาทำเธอเจ็บมากมาย . . . เขาไม่เคยรักเธอเลย

ทำไมนะเหรอ ก็เพราะ ฉันไม่อยากจะจดจำ สิ่งที่มันไม่ดีนี่

ฉันคิดว่าขวดแก้วมันไม่ได้มีไว้ใส่ อดีตที่ขมขื่น

แต่มันมีไว้เพื่อเก็บ วันเวลาที่น่าจดจำของกันและกันต่างหาก



ความรักมันไม่ได้จัดระบบให้อยู่ในหน่วยความจำของสมอง

แต่มันแฝงตัว ตราตรึงอยู่ในหัวใจต่างหาก

ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่มีวันที่จะลืม คนที่เคยรักกัน

คนที่เคยให้ความผูกพันธ์ คนที่เคยเข้าใจกัน

คนที่เคยมีความสัมพันธ์ร่วมกัน

คนที่เคยแลกไออุ่นของกันและกันได้



ถึงแม้วันนี้ ...

ความสัมพันธ์ของเราไม่เหลืออะไร

แม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันเลย

แต่มันจะยังคงอยู่ในหัวใจ ของฉัน ไปอีกนานแสนนาน

และ ... ฉันจะไม่มีวันลืม ความรักของเรา ในครั้งนี้

ฉันจะไม่มีทาง ลืมวันเวลาที่เราเคยใช้ชีวิตร่วมกันเป็นอันขาด



ทุกวันนี้ . .

ฉันค่อยๆ บรรจง เทกระปุกความทรงจำของฉัน ลงใส่ในขวดแก้วใส

ซึ่ง ฉันคิดว่า ฉันจะแบ่งปันสิ่งนั้นให้ไว้กับเธอ

ถึงแม้ฉันจะรู้ ว่าเธอไม่อยากได้มัน ไม่อยากจดจำอดีตที่ไร้ค่า . .

ที่เธอเคยมีร่วมกับ คนไร้ค่าอย่างฉันอีกต่อไปก็ตาม



เพราะฉันคิดเสมอว่า . . .

ขวดแก้วใบนี้มันที่พาฉันกลับไปดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ของ สองเรา

ดินแดนที่มีเราแค่สองคนอีกครั้ง

โดยมีทรายที่ละเอียด ระยับ เป็นเครื่องกำหนดเวลา



เมื่อทรายเม็ดสุดท้าย ทิ้งตัวเองลงสู่ กองทรายข้างล่าง

นั่นก็หมายความว่า เวลาของเราทั้งสองคนก็หมดลงไปเช่นกัน

แต่เมื่อฉันหันนาฬิกาทรายอีกครั้ง

ฉันก็จะมองเห็นว่า ความรักของเรามัน กำลังจะเวียนมา อีกรอบ

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่อดีต . .

แต่ฉันก็เป็นสุขที่ได้ลองมองย้อนกลับไปดู . .

คำตอบ . . . ของความคิดถึง

คำตอบ . . . ของความคิดถึง



การที่เรา อยู่ใกล้กับอะไรมากเกินไป . . .

เรามักมองเห็น สิ่งนั้นไม่ชัดเจน

เหมือนเสียงของหัวใจ . . .

ที่ไหวเต้นอยู่ในร่างกายเรา. . .

ยังเป็นเรื่องยากที่จะได้ยิน


คนสองคน ที่อยู่ด้วยกันตลอด . . .

อาจจะทำให้เรา มองไม่เห็นตัวตน ที่แท้จริงของกันและกัน

และก็มองไม่เห็น. . . หัวใจของตัวเองชัดเจน


บางครั้ง เมื่อเรารักใครสักคน

เราอาจไม่รู้เลยว่า . . .เรารักเขาแค่ไหน

หรือ เขามีความหมาย กับเรามากแค่ไหน

จนเมื่อถึงเวลา ที่ต้องห่างไกลกัน . . .

ความคิดถึง . . . ก็จะเกิดขึ้น

ให้เราสามารถค้นพบคำตอบ เหล่านั้นได้

รักแค่ไหน . . . มีความหมายแค่ไหน . . .ความคิดถึงจะตอบเอง


ลองห่างกันดูบ้าง . . . แล้วจะรู้ว่า . . .

ความคิดถึงนั้น “อ่อนหวาน” สักแค่ไหน . . .

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ก่อนจะเลิกรักใครสักคน ... ถามใจตัวเองให้ดี


ถูกใจ Like เลย


       ความรัก  . . . กับ  . . . อารมณ์ เหมือนซ้ายและขวา
       ถ้าคิดจะรัก ต้องมีสติ คิดไตร่ตรอง
       เพราะความรัก  . . . มีสองฟาก

                ถ้ามีสิ่งดีๆ อีกฟากหนึ่งมักมีสิ่งร้ายๆ เสมอ
                
อย่าเอาอารมณ์มาตัดสินความรัก
                เพราะความรักมักสวนทางกับอารมณ์  . . .

                สำหรับคนที่มีอารมณ์   . . . เหนือ  . . . ความรัก
                          มักจะทำให้ รัก กลาย เป็นบ่อเกิด แห่งการร้างลา  . . .
                          พอพายุผ่านไปแล้ว   . . .
 
                         ถึงจะรู้สึกว่าศูนย์เสียสิ่งที่มีค่าในชีวิตไป
                          เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ  . . .
                          อย่าปล่อยให้ อารมณ์ลิขิตความรัก
                           ลองทบทวนสิ่งดีๆ ที่เคยทำร่วมกัน
                           และถ้ายังรู้สึกดีๆ ที่จะรักอยู่  . . .
                           ก็จงอย่าริที่จะเลิกรัก

                           แต่สำหรับบางคน  . . .
                          ลองตั้งคำถาม กับตัวเองมาหลายครั้ง
                           ทบทวนเรื่องราวมาหลายครา  . . .
                          ก็ยังหาความรู้ดีๆ ของคนรักไม่เจอ

                          หากเป็นเช่นนี้   . . .
                           ก็จง เลิกรัก เถิด
                           แต่ขอให้เลิกแบบ มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน
                           เผื่อสักวันจะกลับมา รักกันอีก  . . .