วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ก่อนจะเลิกรักใครสักคน ... ถามใจตัวเองให้ดี



       ความรัก  . . . กับ  . . . อารมณ์ เหมือนซ้ายและขวา
       ถ้าคิดจะรัก ต้องมีสติ คิดไตร่ตรอง

       เพราะความรัก  . . . มีสองฟาก



                ถ้ามีสิ่งดีๆ อีกฟากหนึ่งมักมีสิ่งร้ายๆ เสมอ
                อย่าเอาอารมณ์มาตัดสินความรัก
                เพราะความรักมักสวนทางกับอารมณ์  . . .


                สำหรับคนที่มีอารมณ์   . . . เหนือ  . . . ความรัก

                          มักจะทำให้ รัก กลาย เป็นบ่อเกิด แห่งการร้างลา  . . .
                          พอพายุผ่านไปแล้ว   . . . 
                          ถึงจะรู้สึกว่าศูนย์เสียสิ่งที่มีค่าในชีวิตไป
                          เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ  . . .


                                    อย่าปล่อยให้ อารมณ์ลิขิตความรัก

                                    ลองทบทวนสิ่งดีๆ ที่เคยทำร่วมกัน
                                    และถ้ายังรู้สึกดีๆ ที่จะรักอยู่  . . . 
                                    ก็จงอย่าริที่จะเลิกรัก


                                              แต่สำหรับบางคน  . . .
                                              ลองตั้งคำถาม กับตัวเองมาหลายครั้ง

                                              ทบทวนเรื่องราวมาหลายครา  . . .
                                              ก็ยังหาความรู้ดีๆ ของคนรักไม่เจอ


                                                     หากเป็นเช่นนี้   . . . 

                                                     ก็จง เลิกรัก เถิด 
                                                     แต่ขอให้เลิกแบบ มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน
                                                     เผื่อสักวันจะกลับมา รักกันอีก  . . .

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

ก่อนที่จะรัก . . คุณถามตัวเองหรือยังว่า . .

ถูกใจ Like เพจให้ด้วยนะค่ะ

          ก่อนที่จะรัก . . คุณพร้อมที่จะอกหักหรือยัง
         
ก่อนที่จะรัก . . คุณพร้อมที่จะเลิกเจ้าชู้ได้หรือยัง
         
ก่อนที่จะรัก . . คุณรัก หรือ คุณหลง ถามตัวเองก่อน
          เมื่อได้รัก . . คุณปฏิบัติตัวเหมือนก่อนที่จะรักหรือเปล่า
          
เมื่อได้รัก . . คุณอย่าเอา รัก ไปรวมกับเซ็กซ์ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน
           
เมื่อได้รัก . . คุณรัก หรือ คุณผูกพัน กันแน่
           (
เพราะบางคน หมดรัก แล้วแต่ไม่เลิก เพราะความผูกพันนั่นแหละ)
          เมื่อไร้รัก . . คุณจะกลับมาอยู่คนเดียวเหมือนเดิมได้หรือเปล่า
           
เมื่อไร้รัก . . คุณจะทนจากความเจ็บปวดนั้นได้นานแค่ไหน
           
เมื่อไร้รัก . . คุณพร้อมที่จะเปิดหัวใจให้คนอื่นอีกหรือเปล่า
           
เมื่อไร้รัก . . ทุก ๆ อย่างก็ดูว่างเปล่า . . ซะเหลือเกิน . .เฮ้อ . .
           ก่อนที่คุณจะรัก, เมื่อคุณได้รัก
            และยามเมื่อคุณไร้รักแล้ว . .
           ก็อย่าลืมถามตัวเอง . . ให้ดีก่อนนะจ๊ะ
            . . ไม่งั้นแล้วคุณจะเสียใจภายหลัง
           
โดยที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ . . . 

วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554

ก้อนหินใหญ่ . . . ในชีวิตของคุณ

ก้อนหินใหญ่ . . . ในชีวิตของคุณ

ถูกใจ Like เพจให้ด้วยนะค่ะ



          ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งได้มีโอกาสไปพูดให้กลุ่มนักศึกษาบริหารธุรกิจฟัง ขณะที่เขายืนต่อหน้านักศึกษา เขาพลันพูดขึ้นว่าเอาล่ะ ผมมีอะไรจะแสดงให้พวกคุณดู มันเกี่ยวกับการบริหารเวลา
          เขานำอ่างแก้วขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วนำหินขนาดใหญ่ค่อยๆใส่ลงไป เมื่อหินเต็มอ่างและไม่สามารถจะเติมหินได้อีกต่อไป เขาถามนักศึกษาว่ามันเต็มหรือยัง นักศึกษาทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เต็มแล้วครับ/ค่ะ เขาย้อนถามว่า จริงหรือครับ แล้วเขาก็นำก้อนกรวดเล็กๆ ออกมา ค่อยๆ ใส่ลงไปพร้อมกับเขย่าอ่าง ทำให้ก้อนกรวดเคลื่อนตัวตกลงไปในช่องว่างของหินก้อนใหญ่
          เขายิ้มพร้อมถามนักศึกษาอีกครั้งว่า เต็มหรือยังครับ นักศึกษาเงียบ มีคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างไม่แน่ใจว่า สงสัยว่ายังไม่เต็มครับ เขาตอบว่า ใช่ครับ พร้อมกับหยิบถุงทรายขึ้นมา แล้วเททรายใส่ในอ่าง แล้วเขย่าให้ทรายลงไปในช่องว่างระหว่างหินและก้อนกรวด
          เขาถามอีกครั้งว่าเต็มหรือยังครับครั้งนี้ นักศึกษาทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ยังไม่เต็มครับ/ค่ะ เขากล่าวเยี่ยม ใช! ่ครับ มันยังไม่เต็ม แล้วเขาก็หยิบโถน้ำขึ้นมาเทน้ำใส่ลงไปจนเต็ม
          เขามองไปที่นักศึกษาและถามว่า มีใครเข้าใจว่าเขาแสดงอะไรให้ดู นักศึกษาคนหนึ่งยกมือขึ้นและพูดว่าถึงแม้ว่าตารางเวลาการทำงานของคุณจะเต็มแน่นแค่ไหน แต่ถ้าพยายาม ก็จะสามารถทำงานบางอย่างได้มากขึ้น

         
ผู้เชี่ยวชาญส่ายหน้าพร้อมกับสอนว่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมกำลังสอน ที่ผมสอนคือ...ถ้าไม่ใส่หินก้อนใหญ่ลงไปก่อน เราจะไม่มีวันใส่มันลงไปได้เลย
          คุณคิดว่าหินก้อนใหญ่ คือ อะไรในชีวิตคุณ? ครอบครัว คนที่คุณรัก การงาน การศึกษา เงิน ความก้าวหน้า สังคม เพื่อนฝูง ตัวเอง ในการทำงาน ก็เช่นกัน คุณต้องรู้ว่า ในงานมากมายของคุณ อะไรเป็นหินก้อนใหญ่ และต้องจำไว้ว่า ทำหินก้อนใหญ่ๆ ก่อน มิฉะนั้นก้อนกรวดและทราย จะทำให้คุณไม่ได้ทำมันเลย ... ตอนนี้คุณอาจหาเวลาว่างๆ ลองคิดดูซิครับ ว่าอะไรคือหินก้อนใหญ่ ในชีวิตคุณ

วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

การใช้ชีวิตคู่


คำว่า "รัก" มีอะไรมากมายซุกซ่อนอยู่ในนั้น อาจจะหวานชื่น ขมขื่น หรืออะไรอื่นอีกหลากหลาย ที่จะทำให้คนรู้จัก "รัก" ได้สัมผัสและรู้สึกถึง….
ความรักเริ่มจากความคิด
เพราะความคิดเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก บางที.. ความรักอาจทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงความคิดไปจากเดิม อาจทำให้คนเราต้องปรับปรุงในสิ่งที่เคยทำ เพียงเพื่อให้เข้ากับใครอีกคน

ความรักทำให้เกิดความเคารพ ศรัทธา
คุณจะไม่สามารถรักใครได้ ถ้าไม่รู้สึกเชื่อมั่นเสียก่อน และคนแรกที่คุณต้องศรัทธาเชื่อมั่น ก็คือตัวเอง

ความรักคือการให้ ถ้าคุณต้องการที่จะได้ความรัก
สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการให้ ยิ่งให้.. คุณก็จะยิ่งได้รับ
สูตรลับของความสุขและทำให้มิตรภาพยืนยาวที่คุณควรจะจำเอาไว้เสมอก็คือ อย่าถามว่าคนอื่นให้อะไรคุณบ้าง แต่ให้ถามว่าคุณทำอะไรให้คนอื่นบ้างจะดีกว่า

ในความรักมีมิตรภาพซ่อนอยู่
อยากได้รักแท้ ก็ต้องหาเพื่อนแท้ให้ได้เสียก่อน การจะรักกันได้ไม่ใช่แค่มองตา แต่อยู่ที่ว่า.. ต่างคนต่างมีอะไรที่ตรงกันหรือเปล่า
หากจะรักใครอย่างจริงใจ คุณควรจะรักในสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่แค่ภาพที่คุณเห็น มิตรภาพก็เหมือนกับปุ๋ยที่ช่วยทำให้ความรักเบ่งบานเติบโตทุก ๆ วันนั่นเอง

การสัมผัส ช่วยสานต่อความรักให้ดีขึ้น
เคยรู้สึกดีใช่มั้ยเวลาที่มีใครโอบไหล่หรือกอดคุณ? การสัมผัส.. จึงเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งที่มีพลัง และช่วยทลายกำแพงแห่งความชิงชังไม่เข้าใจได้อีกด้วย น่าแปลกที่การสัมผัสสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์ และท่าทีที่แข็งกร้าวให้เบาบางลงได้

อยากรักต้องรู้จักปลดปล่อย
ถ้าคุณรักใคร.. จงปล่อยให้เขาเป็นอิสระบ้าง เพราะคุณเองคงรู้สึกอึดอัด ถ้ามีใครมาล่ามโซ่คุณ ดังนั้น.. จงเรียนรู้ที่จะให้อภัยและลืมอดีตที่ไม่ดี เรียนรู้ที่จะปลดปล่อยความกลัวภายในใจ เรียนรู้ที่จะยุติธรรม และลดทิฐิ รวมถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ลงบ้าง
ลองบอกตัวเองว่า.. นับแต่นี้ คุณจะทิ้งความกลัวทั้งหมด แล้วอดีตจะไม่มีผลอะไรต่อตัวคุณได้.. นับจากวันนี้ไป คุณก็จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที

ชีวิตจะเปลี่ยนไป
เมื่อเราเรียนรู้ที่จะเปิดใจให้กว้างและซื่อสัตย์ต่อกัน รวมถึง.. คุยกับคนรักอย่างเปิดเผย และกล้าที่จะพูดถ้อยคำวิเศษว่า "ฉันรักเธอ" โดยไม่ปล่อยให้โอกาสดี ๆ หลุดลอยไป
คุณควรจะบอกรักก่อนจากกันทุกครั้งเสมอ เพราะบางที.. นั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะพบกัน!

แก่นแท้ของความรัก คือการไว้ใจกัน
ถ้าคุณไม่เชื่อใจกัน ใครคนหนึ่งจะรู้สึกระแวง กังวล และหวาดหวั่น ขณะที่อีกคนรู้สึกอึดอัดใจ ที่สำคัญ.. คุณไม่อาจรักใครจริง ๆ ได้ ถ้าคุณไม่ไว้ใจเขาคนนั้นอย่างแท้จริง.....อ่านแล้ว Like เลย 

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554

การที่เราจะรักใครสักคน.....
Like แฟนเพจ ได้ที่นี้ค่ะ
 
การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลว่าทำไมเราจึงไปรักเขาได้
แต่ให้รู้ไว้ว่าทุกวันนี้เรารักเขาและต้องรักให้ดีที่สุดก็พอ
การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ต้องสนว่าหนทางข้างหน้าจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหน
แต่ควรนึกขอบคุณโชคชะตาที่สร้างให้มีอุปสรรค เพื่อให้เราทั้งสองได้ร่วมฟันฝ่าไปด้วยกัน

การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ต้องไปเสียเวลาคิดว่าเขาทำอะไรเพื่อเราบ้าง
แต่ให้มานั่งถามตัวเองดูว่า วันนี้เราทำอะไรเพื่อคนที่เรารักแล้วหรือยัง

การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ต้องไปมัวระแวงว่าเขาจะไปมีใครอื่นนอกเหนือจากเรา
แต่ควรระวังใจของตัวเองให้เข้มแข็งพอที่จะไม่รับใครเข้ามาในใจอีก

การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ต้องไปขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตของเขา
ว่าเขาเคยมีใครยังไง แต่ให้คิดไว้ว่าทุกวันนี้มีเขาและเราอยู่ด้วยกัน...อดีต..ถึงอย่างไรก็คืออดีต

การที่เราจะรักใครสักคน...เมื่อทะเลาะกัน คำว่าแพ้หรือชนะ ก็ไม่สำคัญ
เราจึงยอมให้เขาเป็นฝ่ายชนะเสมอ ถ้าทำให้เขาสบายใจ

การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ควรพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเขา
แต่ควรพยายามปรับตัวเองให้เข้ากับเขาจะดีกว่า

การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ควรหูเบา
เพราะอาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนที่เรารักได้

การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ใช่การสัมผัสกันด้วยร่างกาย
แต่เป็นการสัมผัสกันด้วยหัวใจต่างหาก

การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่จำเป็นต้องบอกรักกันทุกวัน
เพราะการที่เราคอยห่วงใยกันอยู่เสมอๆ ก็สามารถทดแทนคำว่ารักได้ดี
แม้สักล้านคำ

การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่เกี่ยวกับสิ่งของนอกกายใดๆเลย
เพราะความรักไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน หรือแลกมาได้ด้วยทรัพย์สิน

การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ต้องคอยนับว่าเขามีข้อเสียมากมายสักกี่ข้อ
เพราะข้อดีของเขาก็มีมากพอที่จะทำให้เราลืมข้อเสียทั้งหมดของเขาได้

การที่เราจะรักใครสักคน....ไม่จำเป็นต้องตัวติดกันตลอดเวลา
แค่เรามีเขาอยู่ในใจทุกนาทีก็พอ

การที่เราจะรักใครสักคน...เมื่อเห็นเขาเสียใจ
ไม่ต้องรอจนกระทั่งเขาเสียน้ำตา แล้วค่อยเข้าไปปลอบใจ
แต่ควรรีบเข้าไปแบ่งเบาความทุกข์ของเขาเสียตั้งแต่เมื่อเราเห็นเขาเงียบๆซึมๆไป
เพราะหากเราปล่อยเขาไว้จนสายเกิน
ผลสุดท้ายแล้วคนที่จะเสียใจที่สุดเมื่อรู้ตัวก็คือตัวเราเอง

การที่เราจะรักใครสักคน...อย่ารอที่จะบอกรัก ให้รีบบอกคนที่เรารักซะ
ก่อนที่จะไม่มีเขาคนนั้นให้บอกอีกต่อไป

การที่เราจะรักใครสักคน...แม้ว่าอาจทำให้เราตาบอด
แต่ก็ทำให้เราได้รับรู้และเข้าใจ ว่าความสุขจากการที่ได้รักใครสักคน
มันมีมากมายแค่ไหน

การที่เราจะรักใครสักคน...จงเชื่อมั่นในตัวเขาให้มากๆ
การที่เราจะรักใครสักคน...ง่ายยิ่งกว่าการพยายามลบเขาออกไปจากหัวใจ

...ความรัก สอนให้เราได้เรียนรู้หลายๆสิ่ง
ความรักเป็นบทเรียนดีๆ
ที่ไม่อาจเข้าใจได้ถ่องแท้ถ้าไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง
ความรัก ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทำให้เราเข้าใจอะไรๆมากขึ้น
ความรัก ทำให้เราเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ
นี่คือสิ่งที่เราได้เรียนรู้

....จากการที่เราได้....รัก....ใครสักคน...

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

กุญแจกับประตูแห่งความรัก

กุญแจกับประตูแห่งความรัก




ถูกใจ Like เลย

มนุษย์ทุกคนไม่ว่าชายหรือหญิงจะเกิดมาพร้อมกับกุญแจคนละ 1 ดอก
...
กุญแจดอกนี้ใช้ไขเข้าไปห้องหัวใจของใครบางคน
ใครคนที่ใช่ ใครคนที่เป็นของเรา
...
ซึ่งถ้าคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา
ถ้าคนๆนั้นไม่ใช่ของเรา...
...
กุญแจก็จะไม่สามารถไขเข้าไปได้
...
ถึงแม้ว่าจะพยายามซักเท่าไหร่
ถ้าไม่ใช่ยังไงก็ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้

แต่ก็ต้องเจออุปสรรคอีกหลายด้าน...
...
เพราะห้องหัวใจใช่ว่าจะมีเพียงประตูเดียว...
...
มีทั้งประตูแห่งความประทับใจ ประตูแห่งสัมพันธภาพ
ประตูแห่งความเข้าใจ...
...
และอีกมากมายจนกระทั่งประตูสุดท้ายที่เรียกว่าประตูแห่งความรัก...
...
ซึ่งถ้าไม่ใช่..ก็จะไม่สามารถผ่านเข้าไปจนถึงประตูสุดท้ายได้...

จนในที่สุด ถึงแม้จะเจ็บปวด
เจ็บใจและหนื่อยล้าเพียงใด
ก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยไป...

...
และถ้าวันใด...
กุญแจดอกนี้สามารถผ่านประตูทั้งหมดเข้าไปสู่ห้องหัวใจของใครบางคนได้...

...
ก็จงจำไว้เถิดว่า คนๆนี้แหล ะเป็นของเรา
จากนี้และตลอดไป...
...
เพราะเรา...ได้เข้าไปอยู่ในหัวใจของเขาคนนั้นแล้ว
เขาซึ่งเป็นของเรา..และความสุขใจ ความพอใจ
ทั้งความรู้สึกดีๆทั้งหมดจะวนเวียนอยู่รอบกายเรา...

...
วันนี้คุณใช้กุญแจของคุณกับหัวใจของใครบ้างหรือยัง...

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

ข้อแตกต่างระหว่างเพื่อนกับแฟน

ข้อแตกต่างระหว่างเพื่อนกับแฟน

ถูกใจ Like เลย

เพื่อนคือคนที่อยู่ปลอบเรา เวลาที่เราอกหัก
แต่แฟนมีแต่หักอกเราแล้วจากไป
เพื่อนคือคนที่เรามีได้หลายๆ คน แต่แฟนเรามีได้คนเดียว
เพื่อนคือคนที่หัวเราะเวลาเราบอกว่ามีแฟนหลายคน
แต่แฟนคือคนที่ร้องไห้เมื่อรู้ว่าเรามีแฟนหลายคน
เพื่อนคือคนที่เราบอกได้ว่าเรามีแฟนกี่คน
แต่ไปบอกแฟนไม่ได้ว่ามีคนอื่นอีก
เพื่อนคือคนที่แนะนำให้เป็นเพื่อนแฟนเราได้
แต่แฟนแนะนำเป็นแฟนเพื่อนไม่ได้
เพื่อนคือคนที่เราบอกความลับให้รู้ได้มากกว่าแฟน
เพื่อนคือคนที่เค้ามีแฟนอยู่แล้ว เลยไม่ได้เป็นแฟนเรา
เพื่อนคือคำที่เราใช้แนะนำให้พ่อแม่รู้จัก
แฟนเราแนะนำให้กับเพื่อน
เพื่อนคือคนที่คบเพราะนิสัย แต่แฟนเรามักจะดูแต่ภายนอก
เพื่อนคือคนที่เรากล้าทำอะไรบ้า ๆ ให้เราเห็น
แต่แฟนเรามักจะเก็บซ่อนไว้
เพื่อนที่ดีหายากกว่าแฟนที่เลว
แฟนที่ดียิ่งหายากยิ่งกว่า
เพื่อนที่เคยเป็นแฟนมาก่อน มักจะดีกว่าตอนที่เป็นแฟน
แต่แฟนที่เคยเป็นเพื่อนก็ไม่แน่ว่าจะดีเหมือนเดิม
เพื่อนจะไม่ค่อยระแวงเพื่อน แต่แฟนมักจะระแวงเราไปหมด
ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมักจะยืนยาวกว่าการเป็นแฟน

***
สุดท้ายเป็นเพื่อนกันก่อนแล้วเป็นแฟน
หรือจะเป็นแฟนก่อนแล้วเป็นเพื่อน